Cooperative Education

สหกิจศึกษา

มารู้จักสหกิจศึกษากันเถอะ

สหกิจศึกษา (Co-operative Education)

สหกิจศึกษาคืออะไร

          สหกิจศึกษา (Co-operative Education) คือ การศึกษาที่เน้นการปฏิบัติงานในหน่วยงาน ซึ่งเรียกว่า สถานประกอบการหรือองค์กรผู้ใช้บัณฑิต อย่างเป็นระบบก่อนสำเร็จการศึกษา ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนการสอนกับการทำงานอย่างเป็นระบบ (Work Integrated Learning : WIL) โดยนักศึกษามีการปฏิบัติงานจริงในองค์กรผู้ใช้บัณฑิต จำนวนไม่น้อยกว่า 16 สัปดาห์ ซึ่งองค์กรผู้ใช้บัณฑิตจะเข้ามาร่วมจัดการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบ ให้ความร่วมมือแบบเต็มเวลา ทั้งนี้นักศึกษาจะเป็นเสมือนเจ้าหน้าที่หรือพนักงานปฏิบัติงานชั่วคราวในองค์กรผู้ใช้บัณฑิต (มิใช่นักศึกษาฝึกงาน) นักศึกษาสหกิจศึกษาอาจจะได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นตามความเหมาะสมจากองค์กรผู้ใช้บัณฑิต

          นักศึกษาที่เลือกเรียนรายวิชาสหกิจศึกษาทุกคน จะต้องแจ้งความประสงค์ที่สาขาวิชาหรือภาควิชาของตนเอง และลงทะเบียนวิชาสหกิจศึกษา จากนั้นมหาวิทยาลัยจะได้จัดเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาก่อนไปปฏิบัติงานทั้งในด้านเนื้อหาวิชาชีพ ด้านเทคโนโลยี บุคลิกภาพ และการวางตัวในการทำงาน เป็นต้น รวมทั้งจัดให้มีอาจารย์ที่ปรึกษาติดตามให้คำปรึกษาแนะนำและประสานความร่วมมือกับองค์กรผู้ใช้บัณฑิต ซึ่งจะมีพี่เลี้ยงเป็นผู้คอยดูแลนักศึกษา ในขณะเดียวกันนักศึกษาจะต้องผ่านการสอบสัมภาษณ์และการคัดเลือกจากองค์กรผู้ใช้บัณฑิตที่มีความประสงค์จะรับนักศึกษาเข้าไปปฏิบัติงาน

          สหกิจศึกษา เปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้และได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติงานในสถานประกอบการ/องค์กรผู้ใช้บัณฑิต อันจะเป็นการฝึกการประยุกต์ใช้ความรู้ แนวคิด ทฤษฎี ให้สามารถนำไปใช้ในการทำงานจริง เป็นการเติมเต็มการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักศึกษาที่จะสำเร็จการศึกษาเพื่อการเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพตามที่ตลาดแรงงานต้องการ

วัตถุประสงค์ของสหกิจศึกษา

  • เพื่อเสริมสร้างทักษะ ประสบการณ์และศักยภาพในการทำงานจริงให้แก่นักศึกษาก่อนสำเร็จ การศึกษาอย่างเป็นระบบ
  • เพื่อสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมหาวิทยาลัยกับองค์กรผู้ใช้บัณฑิต ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บัณฑิต 
  • เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานทำ และเปิดโอกาสให้องค์กรผู้ใช้บัณฑิต ได้คัดเลือกบุคลากรที่ต้องการตามความเหมาะสมของตำแหน่งงาน 
  • เพื่อลดต้นทุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ

นักศึกษาได้อะไร :

  • ได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์วิชาชีพ ตามสาขาวิชาที่เรียนเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน
  • ได้มีโอกาสเรียนรู้ลักษณะงานและเลือกงานในสายวิชาชีพของตนเองได้ถูกต้อง
  • ได้เสริมทักษะด้านการนำเสนอ การสื่อสารข้อมูล การมีมนุษยสัมพันธ์และเกิดการเรียนรู้ การพัฒนาตนเอง การทำงานร่วมกับผู้อื่น
  • ได้รับค่าตอบแทนหรือสวัสดิการอื่น ๆ จากองค์กรผู้ใช้บัณฑิต
  • มีความพร้อมรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย และมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น
  • มีโอกาสได้รับการคัดเลือกเข้าทำงานก่อนสำเร็จการศึกษามากกว่านักศึกษาที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อน
  • เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพและมีศักยภาพในการทำงาน

องค์กรผู้ใช้บัณฑิตได้อะไร :

  • ได้ความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการศึกษา
  • ได้ภาพลักษณ์ที่ดีด้านการส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคุณภาพบัณฑิต
  • ได้สิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษี (2 เท่า) (พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547)
  • ลดการจ้างพนักงานประจำ เพราะว่ามีนักศึกษาทำงานเสริมตลอดปี ซึ่งเป็นผู้มีความกระตือรือร้นและพร้อมที่จะรับการพัฒนา
  • มีโอกาสของการเพิ่มมูลค่า หรือลดต้นทุน ให้กับองค์กรได้
  • มีช่องทางการคัดเลือกพนักงานประจำที่พร้อมปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ลดเวลาและต้นทุนในการรับสมัครและสอนงาน

สถาบันการศึกษาได้อะไร :

  • ความสัมพันธ์อันดีและเกิดเป็นความร่วมมือทางวิชาการกับองค์กรผู้ใช้บัณฑิต 
  • ได้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการปรับปรุงหลักสูตรและการเรียนการสอน 
  • ได้รับการยอมรับจากตลาดแรงงาน 
  • ได้งานวิจัย และการบริการวิชาการที่ตอบสนองความต้องการของสังคม

บทบาทผู้เกี่ยวข้อง

นักศึกษา

       เป็นนักศึกษาที่เรียนอยู่ในระดับชั้นปีที่ 3 หรือ 4  มีระดับผลการเรียนและสอบผ่านรายวิชาพื้นฐานตามที่สาขาวิชากำหนด   ผ่านการสัมภาษณ์เบื้องต้นและได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ประจำสาขาวิชา หรืออาจารย์ที่ปรึกษา   มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เคยผิดระเบียบวินัยนักศึกษา ผ่านการเตรียมความพร้อมก่อนออกปฏิบัติงาน เช่น พื้นฐานการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ บุคลิกภาพ การเตรียมความพร้อมในการทำงาน  มีวุฒิภาวะและสามารถพัฒนาตนเองได้ดีเพียงพอที่จะปฏิบัติงานในองค์กรผู้ใช้บัณฑิต   ทั้งนี้  นักศึกษาสหกิจศึกษา จะต้องทำรายงานวิชาการ จำนวน 1 เล่ม  ในหัวข้อและเนื้อหาที่องค์กรผู้ใช้บัณฑิต และอาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษาในสาขาวิชา/ภาควิชากำหนด

สถาบันการศึกษา

      เตรียมความพร้อมของนักศึกษา  จัดหาตำแหน่งงาน และอาจารย์ที่ปรึกษาสำหรับการนิเทศก์นักศึกษา ร่วมกำหนดหัวข้อโครงงานกับองค์กรผู้ใช้บัณฑิต และประเมินผล

องค์กรผู้ใช้บัณฑิต

       กำหนดตำแหน่งงาน  หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่ง  กำหนดหัวข้อโครงงาน  จัดให้มีผู้ดูแลนักศึกษา ซึ่งเรียกว่า พนักงานที่ปรึกษา (Job Supervisor) เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำแก่นักศึกษาตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติงาน ประสานกับอาจารย์ที่ปรึกษา ประเมินผล  และกำหนดค่าตอบแทนตามสมควร ตามนโยบายของแต่ละองค์กรผู้ใช้บัณฑิต (หากไม่มีค่าตอบแทนให้เป็นไปตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ความสมัครใจของนักศึกษา และการยอมรับของอาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษาในสาขาวิชา)